วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้าน ให้สร้างบ้านได้ตรงตามความต้องการและถูกใจ
ปัจจุบันมี บริษัทรับสร้างบ้าน อยู่เป็นจำนวนมากทั้งรายใหม่ รายเก่า ถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่ต้องการจะสร้างบ้านได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจเลือกบริษัทใด บริษัทหนึ่ง ลองมาดู 7 วิธีเลือกที่คุณควรรู้ ดังนี้
1. ต้องเป็นบริษัทที่มีการจดทะเบียนประกอบการ
มีสำนักงานหรือที่ตั้งบริษัทที่ชัดเจน ถ้าจะให้ดีควรสังกัดอยู่ในสมาคมผู้ประกอบการ รับสร้างบ้าน ต้องเป็นบริษัทที่มีประวัติและผลงาน มีชื่อเสียง มีแบรนด์เป็นที่ยอมรับและมีผลงานการก่อสร้างบ้านให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
2. ต้องมีแบบบ้านให้ลูกค้าเลือกอย่างหลากหลาย
เช่น มีแบบบ้านให้เลือกไม่ต่ำกว่า 50-200 แบบบ้านและในแต่ละปีต้องมีการออกแบบบ้านใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า และแน่นอนว่าเมื่อมีบ้านให้เลือกก็จะทำให้ผู้ใช้บริการได้บ้านตรงตามความต้องการ
3. ต้องมีสัญญามาตรฐานในการจ้างงานก่อสร้างที่ชัดเจน
นอกจากนี้ในสัญญาว่าจ้างควรระบุถึงขอบเขตงานที่ทำ ระยะเวลาในการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ การแบ่งชำระเงิน เงื่อนไขการรับประกันงานก่อสร้าง อย่างชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษร
4. ต้องมีใบเสนอราคาชัดเจน
เพื่อให้ผู้ใช้บริการ ควบคุมงบประมาณการก่อสร้างทั้งหมดได้ ซึ่งอาจรวมถึงรายละเอียดและมาตรฐานของวัสดุที่ใช้ โดยงานเอกสารเหล่านี้เองก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการทำงานของบริษัทรับก่อสร้างได้
5. ต้องมีทีมงานก่อสร้างมีวิศวกรคุมงาน
ซึ่งจะทำให้งานก่อสร้างบ้านเป็นไปตามแบบและได้มาตรฐานและไม่เกิดปัญหาโครงสร้างบ้านตามมาในภายหลัง และจะดีมากหากเป็นบริษัทที่มีระบบการก่อสร้างที่ชัดเจนซึ่งจะทำให้งานก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่นรวดเร็วและทันตามกำหนดการณ์
6. ต้องมีบริการหลังการขาย
เพราะแม้ว่างานก่อสร้างจะได้มาตรฐานและดำเนินการก่อสร้างได้ทันตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาแต่โดยธรรมชาติของบ้านแล้วหลังการอยู่อาศัยมักจะเกิดปัญหาจุกจิกตามมาในภายหลัง ซึ่งหาก บริษัทรับสร้างบ้าน ที่คุณใช้บริการมีบริการหลังการขายให้ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลังการส่งมอบบ้านให้ลูกค้า รวมถึงระยะเวลารับประกันที่ครอบคลุมและชัดเจน เช่น รับประกันโครงสร้าง 20 ปี
7. ต้องมีชื่อเสียงที่ดี
สำหรับ บริษัทรับสร้างบ้าน 2566 ที่มีชื่อเสียงและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคและจากผู้ใช้บริการจนเป็นที่ยอมรับเรียกได้ว่ามีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นต้นของประเทศ มีอยู่ด้วยกันหลายบริษัท ซึ่งแต่ละบริษัทมีจุดเด่นและความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน