เมื่อสปอร์ตไลท์ LEDแตก การป้องกันตัวที่หลายคนยังไม่รู้

สปอร์ตไลท์ LED หนึ่งในประเภทของหลอดไฟที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสปอร์ตไลท์LED มีวิธีการใช้งานที่สะดวก สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร อีกทั้งตัวโคมสปอร์ตไลท์ LED ยังสามารถปรับมุมองศาเพื่อให้แสงสว่างส่องไปยังพื้นที่ที่ต้องการได้ นิยมใช้ในสถานที่ต่างๆ เช่น สปอร์ตไลท์สนาม สปอร์ตไลท์ส่องป้าย สปอร์ตไลท์ส่องอาคาร หรือจะใช้ส่องภายในบ้าน

ซึ่งหลายคนที่ใช้ สปอร์ตไลท์LED อาจจะรู้เพียงวิธีทำความสะอาดและการเก็บรักษาแต่อาจจะยังไม่ทราบถึงสารเคมีที่อยู่ภายในหลอดว่ามีอะไรบ้าง และมีอันตรายต่อร่างกายมากน้อยเพียงใด จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ศึกษาเกี่ยวกับหลอด LED หรือหลอดประหยัดไฟพบว่า หลอด LED จะปล่อยไอปรอทที่สามารถกระจายตัวในอากาศได้สูงถึง 20 เท่า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายเช่น อาการปวดหัว หน้ามืด ตาลาย เหนื่อยเมื่อยล้า ชัก ไม่มีสมาธิ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ซึ่งสารเคมีที่มีผลกระทบต่อร่างกายมีดังนี้
1.สารก่อมะเร็ง ที่พบในหลอดLEDมีหลายประเภท เช่น
– ฟีนอล (phenol) – ผลึกสีขาวที่ได้จากน้ำมันดิน มีฤทธิ์กรดอ่อน มักใช้ในอุตสาหกรรมเคมีหลายประเภท เช่น ยา น้ำยาทำความสะอาด ยากำจัดศัตรูพืช สีย้อม หากได้รับสารฟีนอลเป็นเวลานานร่างกายจะมีอาการต่างๆตามมา เช่น ท้องร่วง เบื่ออาหาร ตับวาย และอาจเป็นผลทำให้เกิดโรคมะเร็งได้
– แนฟทาลิน (Naphthalene) – สารประกอบสีขาวที่ได้จากกระบวนการกลั่นน้ำมันดิน มีกลิ่นฉุน ระเหิดได้ ใช้ทำลูกเหม็นและเป็นสารตั้งต้นในอุตสาหกรรมเคมี เช่น สี กระดาษสำเนา หากสูดดมเข้าไปเป็นจำนวนมากจะเกิดการระคายเคืองต่อตา และผิวหนัง
– สไตริน (Styrene) – สารไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัวที่ได้จากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม เป็นสารตั้งต้นใช้ทำกล่องโฟม หากรับเข้าจะทำให้ชักและเสียชีวิตได้

สารเหล่านี้หากร่างกายรับเข้าไปเป็นจำนวนมากและเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดการสะสมและเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง

2.รังสี UV โดยปกติหลอดประหยัดไฟจะปล่อยรังสี 2 ประเภท คือ รังสี UVB และ UVC ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิวหนังและสายตา รังสีเหล่านี้จะไปรบกวนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้ผิวหนังชะลอการสังเคราะห์วิตามินดี ซึ่งหากได้รับรังสียูวีเป็นจำนวนมากอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

3.สารปรอท มีพิษร้ายแรงต่อระบบประสาท โดยเฉพาะกับเด็กและคนท้อง พิษจะเข้าไปทำลายสมอง ระบบประสาท ตับ ไต และยังทำให้หลอดเลือดหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบสืบพันธุ์มีปัญหา ส่งผลให้ผู้ใช้มีความเครียด ปวดหัว ตัวสั่น นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม และหากได้รับในปริมาณมากอาจทำให้เป็นอัลไซเมอร์ได้

สารเคมีเหล่านี้เป็นสารที่บรรจุอยู่ในตัวหลอดของสปอร์ตไลท์ หาก ใช้ สปอร์ตไลท์ LED 200w ก็จะมีสารเคมีอยู่ภายในมากกว่า สปอร์ตไลท์LED 100w เพราะฉะนั้นเมื่อสปอร์ตไลท์LED แตก จะทำให้สารและก๊าซพิษที่อยู่ภายในหลอดรั่วไหลและออกมาปนเปื้อนกับอากาศ สิ่งแวดล้อม ดังนั้นเราจึงเลือกใช้สปอร์ตไลท์LED ให้เหมาะสมกับการใช้งานและควรรู้จักวิธีป้องกันเมื่อเกิดปัญหาหลอดแตก

แม้ว่า ราคาสปอร์ตไลท์ LED จะค่อนข้างสูง แต่กลับขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดไฟ ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงนิยมใช้หลอดไฟLEDเพื่อความคุ้มค่าในระยะยาว แม้หลายคนจะกังวลถึงอันตรายเมื่อสปอร์ตไลท์LEDแตก แต่ถึงอย่างไรปัญหาเหล่านี้ก็ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด หากเรารู้วิธีรับมือและปฏิบัติอย่างถูกขั้นตอน เท่านี้อันตรายจากสปอร์ตไลท์LEDก็จะไม่เกิดกับคุณและคนที่คุณรัก